06 กุมภาพันธ์ 2555

การแก้สมการและอสมการ


 1.     ประโยคภาษาและประโยคสัญลักษณ์   

ประโยคภาษาคือ       ประโยคที่ใช้ติดต่อสื่อสารกันในชีวิตประจำวัน

ประโยคสัญลักษณ์  คือ       ประโยคที่ถูกสร้างขึ้นมาแทนประโยคภาษาเพื่อความ 

สะดวกในการคิดคำนวณ

    ประโยคภาษา                                 ประโยคสัญลักษณ์

ครึ่งหนึ่งของห้าสิบน้อยกว่าสามสิบ                



สองเท่าของจำนวนหนึ่งมากกว่าสิบอยู่สอง



2.     สมการ คือ  ประโยคสัญลักษณ์ที่กล่าวถึงความสัมพันธ์ของจำนวนโดยมี

สัญลักษณ์  " = " บอกความสัมพันธ์ระหว่างจำนวน  คำตอบของสมการคือ จำนวนที่แทนตัวแปรในสมการแล้วทำให้สมการเป็นจริง หรือสอดคล้องกับสมการ

3.  อสมการ  คือ ประโยคสัญลักษณ์ที่กล่าวถึงความสัมพันธ์ของจำนวนโดยมี

สัญลักษณ์  " < ,  > ,  £ , ³ ,  ¹   บอกความสัมพันธ์ระหว่างจำนวน   คำตอบของอสมการคือ จำนวนที่แทนตัวแปรแล้วในอสมการทำให้อสมการเป็นจริงหรือสอดคล้องกับอสมการ

4.  การแก้สมการ คือ วิธีหาคำตอบของสมการนั่นเอง

การตรวจสอบ  คือ การนำตัวแปรที่ได้จากการแก้สมการไปแทนลงในสมการที่กำหนดให้เพื่อดูว่าค่าดังกล่าวเป็นคำตอบของสมการหรือไม่

5.     โจทย์สมการ คือ โจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์ที่ใช้การแก้สมการในการหาคำ 

ตอบนั่นเอง











หลักการแก้ปัญหาโจทย์สมการ

1.     อ่านโจทย์ให้เข้าใจว่าโจทย์กำหนดอะไรมาให้และต้องการหาอะไร

2.     กำหนดตัวแปรแทนโจทย์ต้องการหา

3.     เปลี่ยนประโยคภาษาที่โจทย์กำหนดให้เป็นประโยคสัญลักษณ์(สมการ)

4.     แก้สมการเพื่อหาคำตอบที่โจทย์ต้องการ

5.     ตรวจสอบคำตอบที่ได้กับเงื่อนไขที่โจทย์กำหนดว่าสอดคล้องกันหรือไม่



ตัวอย่าง      ให้ 2 เท่าของ A น้อยกว่า 5 เท่าของ B อยู่ 10 ถ้า B =30 แล้ว A จะมีค่าเท่าใด

วิธีทำ         5B - 2A  =  10   -------(1)

                B = 30    -------------(2)

                แทนค่า(1)  ด้วย  (2)  ได้  2A   = 5(30) - 10 

=  150 - 10  = 140  

                                                        A  =  140/2  =  70

        ตรวจสอบคำตอบ  แทนค่า A = 70  ใน (1)  ได้  

5(30) - 2(70) = 150 - 140 = 10

ทำให้สมการเป็นจริง

6.  หลักการแก้อสมการ



1.     คำตอบที่ได้จากอสมการจะอยู่ในรูปช่วง

2.     ถ้าคูณหรือหารด้วยค่าลบ(จำนวนจริงลบ) เครื่องหมายของอสมการต้องเปลี่ยนเป็นตรงข้าม

3.     การแก้อสมการกำลังสูงสุดแค่หนึ่งให้ใช้หลักการแก้เหมือนการแก้สมการคือย้ายข้างได้สำหรับการบวกและลบนิยมย้ายตัวแปรใว้ด้านหนึ่ง

4.     การแก้อสมการที่มีกำลังมากกว่าหนึ่ง

4.1           ทำทางขวามือของอสมการให้มีค่าเป็นศูนย์

4.2           แยกตัวประกอบของอสมการให้อยู่ในรูปผลคูณหรือผลหารของฟังก์ชัน

4.3           พิจารณาดูว่าค่าใดบ้างที่ทำให้ตัวประกอบแต่ละตัวเท่ากับสูนย์

4.4           นำค่าที่ได้ใส่ลงในเส้นจำนวน โดยเรียงจากน้อยไปมาก



    น้อย      +        -       +        -       +          มาก

 


        กำหนดให้ช่วงทางขวามือสุดเป็นค่าบวก  และถัดมาเป็นค่าลบ   บวก   ลบ  ……      สลับไปเรื่อย ๆ ตามจำนวนของช่วงที่มีอยู่

4.5           พิจารณาหาคำตอบ โดยใช้หลัก

(1)             ถ้าอสมการเครื่องหมาย > , ³ เลือกช่วงที่มีค่าบวก(+)  ถ้ามีหลายค่าเชื่อมด้วย "หรือ"

(2)             ถ้าอสมการเครื่องหมาย < , £ เลือกช่วงที่มีค่าลบ(-)  ถ้ามีหลายค่าเชื่อมด้วย "หรือ"



ตัวอย่าง  จงแก้อสมการ  (x-5)(x+2)      > 0

                                (x-3)



        วิธีทำ  วงเล็บใดวงเล็บหนึ่งเท่ากับ 0 หาค่า x ออกมาได้ x = 5 ,-2 ,3

                เขียนบนเส้นจำนวน

                                -          +           -               +

                                       -2          3               5

                        \ คำตอบ คือ -2 < x < 3  หรือ  x  > 5
ขอบคุณข้อมูลจาก : www.tutormaths.com/matha20.doc

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น